แม่ร่ำไห้! อ้างลูกสาวถูก “ลัทธิ” ล้างสมอง หลังหนีตามกลุ่มชนเผ่าลึกลับไป

เรื่องราวสุดสะเทือนใจของหญิงชาวอเมริกันที่หนีออกจากบ้านไปใช้ชีวิตในกลุ่มชนเผ่าลึกลับ!

ทำให้ผู้เป็นแม่ต้องออกมาเรียกร้องให้ทางการสหราชอาณาจักรช่วยเหลือ เพราะเชื่อว่าลูกสาวของเธอถูก “ล้างสมอง” โดยผู้นำของกลุ่มลัทธินี้

คาอูรา เทย์เลอร์ หญิงสาววัย 21 ปี จากรัฐเท็กซัส ได้หายตัวไปอย่างลึกลับจากบ้านพักของป้าตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ก่อนจะพบว่าเธอไปเข้าร่วมกับชนเผ่าแอฟริกันที่เรียกตัวเองว่า “อาณาจักรแห่งคูบาล่า” ในประเทศสกอตแลนด์ ซึ่งอยู่ห่างออกไปกว่า 7,000 กิโลเมตร

นางเมลบา ไวท์เฮด วัย 45 ปี ผู้เป็นแม่เล่าว่า ก่อนหน้านี้ลูกสาวของเธอเป็นนักเรียนเก่งระดับหัวกะทิและมีความฝันอยากเป็นทนายความ แต่หลังจากช่วงการระบาดของโควิด-19 คาอูราก็เริ่มเก็บตัวมากขึ้น จนต้องเข้าพบจิตแพทย์ในปี 2021 และในปีต่อมาเธอก็ย้ายออกจากบ้านไปอยู่กับป้า

ชีวิตของคาอูราเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงเมื่อพ่อของลูกสาววัยหนึ่งขวบของเธอได้แนะนำให้รู้จักกับกลุ่มอาณาจักรแห่งคูบาล่า ซึ่งอ้างว่าพวกเขาคือชนเผ่าฮีบรูที่พลัดถิ่นและกำลังพยายามทวงคืนที่ดินของบรรพบุรุษที่พวกเขาเชื่อว่าอยู่ในสกอตแลนด์ และในที่สุดเธอก็ตัดสินใจหนีออกจากสหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม เพื่อไปเข้าร่วมกับกลุ่มนี้ โดยเพื่อนเก่าเล่าว่าอดีตแฟนของคาอูราเคยถูกชักชวนให้เข้าร่วมกลุ่ม แต่ปฏิเสธเพราะทน “พิธีกรรมที่ผิดหลักศาสนา” ไม่ได้

ปัจจุบันคาอูราใช้ชื่อใหม่ว่า “เลดี้ซาฟี” และอาศัยอยู่ในพื้นที่ป่าแห่งหนึ่งในเมืองเจ็ดเบิร์ก ประเทศสกอตแลนด์ และใช้ชีวิตในฐานะ “นางใน” ของ “กษัตริย์” และ “ราชินี” ของกลุ่ม ผู้เป็นแม่เชื่อว่าลูกสาวของเธอถูกล้างสมองและยังกังวลว่าเธออาจตั้งครรภ์อีกครั้ง เพราะในวิดีโอหนึ่ง คาอูราบอกว่าเธอพร้อมที่จะเป็น “แม่อุ้มบุญ” ให้กับราชินีของเผ่า

นางเมลบาถึงกับร่ำไห้และกล่าวว่า “ลัทธินี้มันบ้าคลั่ง พวกเขาเป็นภัยคุกคามต่อทุกคนที่อยู่รอบตัว และฉันไม่อยากให้ลูกสาวต้องตาย” เธอยังประณามรัฐบาลสกอตแลนด์ที่ปฏิเสธไม่ให้สิทธิ์ในการดูแลหลานสาวของเธอ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ช่วยเหลือออกมาจากค่ายดังกล่าวแล้ว นางเมลบาร้องขอให้ทางการช่วยลูกสาวและหลานสาวของเธอกลับมาที่รัฐเท็กซัส “เห็นได้ชัดว่าเธอไม่สามารถตัดสินใจอะไรที่ดีสำหรับตัวเองและลูกได้ ดังนั้นช่วยส่งเธอกลับบ้านเถอะค่ะ”

อย่างไรก็ตาม คาอูรา เทย์เลอร์ ได้ออกมาเคลื่อนไหวผ่านโซเชียลมีเดีย โดยยืนยันว่าเธอมีความสุขดีและไม่ได้เป็นเด็กที่ไร้หนทาง

“ฉันมีความสุขมากที่ได้อยู่กับกษัตริย์และราชินีของฉัน ฉันไม่ได้หายไปไหน แต่ฉันหนีออกมาจากครอบครัวที่ทำร้ายจิตใจและเป็นพิษต่างหาก”

เธอยังเรียกร้องให้ทางการสหราชอาณาจักร “ปล่อยให้เธออยู่คนเดียว”