นักวิทยาศาสตร์ดื่มน้ำ ’พันล้านปี’ จากใต้โลก พร้อมเผยรสชาติสุดประหลาด!

นักธรณีวิทยาคนหนึ่งได้ทำสิ่งที่เหลือเชื่อด้วยการจิบน้ำที่มีอายุเก่าแก่หลายพันล้านปี เพื่อพิสูจน์รสชาติของมัน

ลืมน้ำกรอง, น้ำกรองสองชั้น, หรือน้ำแฟชั่นต่าง ๆ ที่เคยดื่มไปได้เลย เพราะตอนนี้มี ‘น้ำโบราณ’ ที่อยู่ใต้พื้นโลกที่เราไม่เคยรู้มาก่อนแน่นอน และแน่นอนว่าคนทั่วไปอย่างเราไม่มีโอกาสเข้าถึงน้ำนี้ได้อยู่แล้ว แถมถึงมีโอกาสก็คงไม่คิดจะดื่มมัน เพราะมันอาจมีแบคทีเรีย, จุลินทรีย์ หรืออาจจะเป็นน้ำที่ขังอยู่นานแล้วก็ได้

แต่ในปี 2013 นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยโทรอนโต ได้ค้นพบน้ำที่อยู่ลึกลงไปใต้พื้นโลกกว่า 1.5 ไมล์ในเมืองทิมมินส์ รัฐออนแทรีโอ ประเทศแคนาดา และพวกเขาก็รีบทำการทดสอบทันที

น้ำที่ถูกแยกออกจากโลกภายนอกเป็นเวลาหลายพันปีแห่งนี้ เมื่อนำมาคำนวณอายุแล้วพบว่ามันมีอายุอยู่ระหว่าง 1.5 พันล้านถึง 2.6 พันล้านปี ทำให้มันกลายเป็นน้ำที่เก่าแก่ที่สุดในโลกเท่าที่มนุษย์เคยรู้จัก

ศาสตราจารย์บาร์บารา เชอร์วูด ลอลลาร์ หัวหน้าทีมวิจัย ได้ตัดสินใจทำสิ่งที่น่าทึ่งกว่านั้นด้วยการลองชิมน้ำโบราณนี้ด้วยตัวเอง ซึ่งเธอเปิดเผยว่ารสชาติของมัน “แย่มาก”

เธอกล่าวกับสื่อ LA Times ว่า “เพราะปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นระหว่างน้ำกับหิน ทำให้น้ำมีรสเค็มมาก” เธอยังเล่าถึงลักษณะของมันว่า “มันมีความหนืดมากกว่าน้ำประปาทั่วไป และมีความข้นเหมือนน้ำเชื่อมเมเปิ้ลแบบบางเบา” “ตอนแรกที่มันออกมาไม่มีสี แต่ทันทีที่สัมผัสกับออกซิเจน มันจะเปลี่ยนเป็นสีส้มเพราะแร่ธาตุในนั้นเริ่มก่อตัว โดยเฉพาะธาตุเหล็ก”

ขอบคุณภาพจาก : unilad

ที่น่าแปลกกว่านั้นคือ เธอสารภาพว่า “เคยชิมมันเป็นครั้งคราว” ซึ่งหมายความว่าเธอดื่มมันมากกว่าหนึ่งครั้ง และเหตุผลของเธอก็คือ

“เราสนใจน้ำที่มีความเค็มที่สุดเพราะมันเก่าแก่ที่สุด และการชิมก็เป็นวิธีที่รวดเร็วและง่ายที่สุดในการหาน้ำที่เค็มที่สุด”

เธอคงไม่คิดว่าเพียงแค่สามปีต่อมาในเหมืองเดียวกันนี้ ทีมของเธอจะค้นพบน้ำที่เก่าแก่กว่าเดิมเสียอีก ในปี 2016 ลอลลาร์และทีมงานได้ค้นพบน้ำที่ไหลในบริเวณเดียวกัน ซึ่งมีอายุมากกว่า 2.6 พันล้านปี ซึ่งทำลายสถิติน้ำที่เก่าแก่ที่สุดที่เธอเคยดื่มไปก่อนหน้านี้ แต่เธอก็ไม่ได้บอกว่าได้ลองชิมมันหรือไม่

ขอบคุณภาพจาก : unilad

เธอยังอธิบายกับ BBC News ว่า “เมื่อเราดูซัลเฟตในน้ำ เราสามารถเห็นร่องรอยที่บ่งบอกถึงการมีอยู่ของสิ่งมีชีวิตได้ และเราสามารถสรุปได้ว่าสัญญาณที่เราเห็นในของเหลวนี้น่าจะเกิดจากจุลชีววิทยา และที่สำคัญที่สุดคือต้องเกิดขึ้นในระยะเวลาที่ยาวนานมาก”

“จุลินทรีย์ที่สร้างสัญญาณนี้ไม่สามารถทำได้ในชั่วข้ามคืน แต่นี่เป็นตัวบ่งชี้ว่าสิ่งมีชีวิตมีอยู่ในของเหลวเหล่านี้มานานในระดับทางธรณีวิทยาแล้ว” เธอกล่าว สรุปได้ว่าซัลเฟตในน้ำนั้นเปรียบเสมือนเครื่องจับเวลาที่เปิดเผยอายุที่แท้จริงของมันนั่นเอง

เนื้อหาที่น่าสนใจ