แสงเหนือ หรือ ออโรรา (Aurora) เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่สวยงามและน่าทึ่ง

แสงเหนือ หรือ ออโรรา (Aurora) เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่สวยงามและน่าทึ่ง เกิดจากการชนกันระหว่างอนุภาคมีประจุ (ส่วนใหญ่เป็นอิเล็กตรอนและโปรตอน) ที่มาจากพายุสุริยะ กับอนุภาคในชั้นบรรยากาศโลก
กลไกการเกิดแสงเหนือ

  • พายุสุริยะ: ดวงอาทิตย์จะปล่อยลมสุริยะ (Solar Wind) ซึ่งเป็นกระแสของอนุภาคมีประจุออกมาตลอดเวลา และบางครั้งก็มีการปะทุขนาดใหญ่ที่เรียกว่า การปะทุของมวลโคโรนา (Coronal Mass Ejection – CME) ซึ่งปล่อยอนุภาคออกมาจำนวนมหาศาล
  • การเดินทางมายังโลก: อนุภาคเหล่านี้เดินทางด้วยความเร็วสูงมาก และเมื่อมาถึงโลกก็จะถูกสนามแม่เหล็กโลกเบี่ยงเบนทิศทางให้พุ่งเข้าสู่บริเวณขั้วโลกเหนือและขั้วโลกใต้
  • การชนกับบรรยากาศ: เมื่ออนุภาคมีประจุพุ่งชนกับโมเลกุลและอะตอมในชั้นบรรยากาศโลก (ส่วนใหญ่เป็นออกซิเจนและไนโตรเจน) มันจะถ่ายเทพลังงานทำให้อะตอมและโมเลกุลเหล่านั้นปล่อยแสงออกมาในรูปของสีต่างๆ

สีของแสงเหนือ
สีของแสงเหนือขึ้นอยู่กับชนิดของอะตอมที่ถูกชนและระดับความสูงที่เกิดการชน:

  • สีเขียว: เป็นสีที่พบเห็นได้บ่อยที่สุด เกิดจากการชนกันของอนุภาคกับอะตอม ออกซิเจน ที่ระดับความสูงประมาณ 100-200 กิโลเมตร
  • สีแดง: เกิดจากอะตอม ออกซิเจน เช่นกัน แต่จะเกิดขึ้นที่ระดับความสูงที่สูงกว่า (ประมาณ 200-400 กิโลเมตร)
  • สีน้ำเงินหรือม่วง: เกิดจากการชนกันของอนุภาคกับโมเลกุล ไนโตรเจน
  • สีชมพูหรือม่วงอ่อน: เกิดจากการผสมกันของสีแดงและสีน้ำเงิน
    การดูแสงเหนือ
  • ช่วงเวลาที่เหมาะสม: แสงเหนือจะเห็นได้ชัดเจนที่สุดในช่วงฤดูหนาวและฤดูใบไม้ร่วง โดยเฉพาะในคืนที่มืดสนิทและไม่มีเมฆ
  • สถานที่: แสงเหนือจะเห็นได้ในบริเวณใกล้ ขั้วโลกเหนือ (Aurora Borealis) และ ขั้วโลกใต้ (Aurora Australis) เท่านั้น ประเทศยอดนิยมสำหรับการชมแสงเหนือได้แก่ นอร์เวย์, ไอซ์แลนด์, สวีเดน, ฟินแลนด์, อลาสก้า, แคนาดา และรัสเซีย

ในช่วงที่ผ่านมา (ประมาณพฤษภาคม 2024) ได้เกิด พายุสุริยะระดับ G5 ซึ่งเป็นระดับที่รุนแรงที่สุดในรอบ 20 ปี ทำให้เกิดแสงเหนือที่สามารถมองเห็นได้ในหลายพื้นที่ที่ไม่ใช่ขั้วโลก เช่น สหราชอาณาจักร หรือแม้แต่ตอนเหนือของเม็กซิโก ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ไม่ปกติและเป็นที่ฮือฮาอย่างมากในวงการดาราศาสตร์

เนื้อหาที่น่าสนใจ