หนุ่มวัย 29 หน้าเหมือนจักรพรรดิองค์สุดท้ายจน AI ยังแยกไม่ออก!

เรื่องราวสุดแปลกแต่จริงของชายชาวจีนคนหนึ่งได้กลายเป็นที่สนใจในโลกออนไลน์อย่างรวดเร็ว เนื่องจากเขามีใบหน้าที่เหมือนกับ อ้ายซินเจว๋หลัว ปูยี หรือจักรพรรดิองค์สุดท้ายของจีนอย่างไม่น่าเชื่อ

ชายคนนี้มีชื่อว่า ฟู่ เฉียง วัย 29 ปี เขาเริ่มมีชื่อเสียงเมื่อปีที่แล้ว หลังจากเผยแพร่วิดีโอสั้น ๆ ที่เขาแต่งกายในชุดสไตล์ที่จักรพรรดิปูยีสวมใส่เป็นประจำ พร้อมกับแว่นตาทรงกลม เดินอยู่ในพระราชวังต้องห้าม ซึ่งคลิปนี้มียอดเข้าชมมากกว่า 10 ล้านครั้ง

จักรพรรดิปูยี (ค.ศ. 1906-1967) เป็นจักรพรรดิองค์สุดท้ายของราชวงศ์ชิง และเป็นหนึ่งในจักรพรรดิที่คนจีนรู้จักมากที่สุด เนื่องจากชีวิตของเขาเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์หลายอย่าง และชีวิตของเขาก็ถูกนำมาสร้างเป็นละครและภาพยนตร์มากมายตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา

ฟู่ เฉียง ซึ่งเคยทำงานหลายอย่าง ตั้งแต่พนักงานขายอสังหาริมทรัพย์, พ่อครัว ไปจนถึงพนักงานแจกใบปลิว ได้ตัดสินใจใช้ใบหน้าที่เหมือนปูยีเป็นอาชีพหลัก โดยย้ายไปอยู่ที่ปักกิ่งและทำอาชีพบล็อกเกอร์เต็มตัว ซึ่งปัจจุบันเขามีผู้ติดตามในแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียกว่า 6.6 แสนคน โดยใช้ชื่อว่า “ปูยีตัวน้อย”

ฟู่ เฉียงได้โพสต์วิดีโอไปแล้วกว่า 286 คลิป ส่วนใหญ่เป็นคลิปที่เขาแต่งตัวเป็นจักรพรรดิ และเดินทางไปยังสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ต่าง ๆ และพูดคุยกับผู้คนระหว่างทาง “จักรพรรดิมาแล้ว! ทุกคนคุกเข่าเร็วเข้า!” ผู้ที่พบเห็นคนหนึ่งแซว ขณะที่อีกคนถามว่า “ท่านรู้ไหมว่าราชวงศ์ชิงล่มสลายไปแล้ว?”

ในวิดีโอหนึ่ง เด็กหญิงตัวน้อยคนหนึ่งถามเขาว่า “ในเมื่อพระราชวังต้องห้ามเป็นบ้านของท่าน ท่านยังต้องซื้อตั๋วเข้าชมอยู่ไหม?” ฟู่ตอบกลับว่า “ใช่ ต้องซื้อ”

ความเหมือนนี้ไม่ได้แค่ทำให้ผู้คนสับสนเท่านั้น แต่ยังทำให้ระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) แยกไม่ออกด้วย โดยฟู่ได้ลองอัปโหลดรูปภาพของตัวเองที่ถ่ายหน้าวิหารเทียนถาน ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญในปักกิ่ง และขอให้ AI ระบุตัวตนของบุคคลในภาพ ซึ่งระบบก็ตอบกลับมาว่า “บุคคลในภาพคือปูยี จักรพรรดิองค์สุดท้ายของราชวงศ์ชิง และยังเป็นจักรพรรดิองค์สุดท้ายของจีน”

ด้วยความเหมือนที่มีมาแต่กำเนิด ทำให้ฟู่ได้รับเชิญไปแสดงในมินิซีรีส์และวิดีโอโปรโมตหลายครั้ง ซึ่งเขายืนยันว่าไม่เคยทำศัลยกรรมใบหน้าใด ๆ มาก่อน และน้องชายของเขาก็มีหน้าตาคล้ายกับผูเจี๋ย น้องชายของปูยีเช่นกัน

ฟู่กล่าวว่าแม้จะมีเสียงวิจารณ์จากชาวเน็ตบางส่วนที่เรียกเขาว่าเป็น “ปีศาจที่เหลืออยู่ของราชวงศ์ชิง” แต่เขาเลือกที่จะไม่สนใจ และจะทำในสิ่งที่เขาอยากทำต่อไป

“ผมแค่มุ่งเน้นในสิ่งที่ผมควรทำ ผมอยากสร้างวิดีโอที่นำความสุขมาให้ผู้คน และแบ่งปันเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ผ่านภาพลักษณ์ของปูยี” เขากล่าว