Kvikk Lunsj ช็อกโกแลตแห่งการผจญภัยที่ถกเถียงกันมานาน

ท่ามกลางสายฝนที่โปรยปราย เพื่อนของผมยื่น Kvikk Lunsj ช็อกโกแลตแท่งสี่เหลี่ยมที่เป็นเสมือนสัญลักษณ์ของการเดินทางในนอร์เวย์ Kvikk Lunsj หรือ “ช็อกโกแลตสำหรับเดินทาง” (the trip chocolate) ไม่ได้เป็นแค่ขนมหวาน แต่เป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตชาวนอร์เวย์ที่ผูกพันกับการสำรวจธรรมชาติมาอย่างยาวนาน

ในแต่ละปีมีการผลิต Kvikk Lunsj มากถึง 60 ล้านแท่ง หรือเฉลี่ยคนละ 11 แท่งต่อปี ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าไม่ว่าจะปีนเขา พายเรือคายัก หรือเดินป่า การเดินทางจะไม่มีวันสมบูรณ์ถ้าขาดช็อกโกแลตแท่งนี้

จากความล้มเหลวสู่แรงบันดาลใจ

ย้อนกลับไปในปี 1937 โยฮัน โทรน โฮลสต์ ผู้ก่อตั้ง Kvikk Lunsj ได้รับแรงบันดาลใจจากเหตุการณ์ที่เขาหลงป่ากับเพื่อนชาวเยอรมัน ซึ่งเพื่อนบ่นว่าการเดินทางคงดีกว่านี้ถ้ามีช็อกโกแลตติดตัวไปด้วย หลังจากนั้นไม่นาน โฮลสต์ก็เข้าซื้อกิจการโรงงานช็อกโกแลตเล็ก ๆ ชื่อ Freia และได้แรงบันดาลใจเพิ่มเติมจาก โรอัลด์ อามุนด์เซน นักสำรวจชาวนอร์เวย์คนแรกที่พิชิตขั้วโลกใต้ ซึ่งพกช็อกโกแลตไปเป็นเสบียง โฮลสต์จึงตัดสินใจสร้างสรรค์ช็อกโกแลตที่เหมาะกับการผจญภัย

อย่างไรก็ตาม Kvikk Lunsj ในช่วงแรกไม่ประสบความสำเร็จเพราะใช้ดาร์กช็อกโกแลต แต่เมื่อเปลี่ยนเป็น ช็อกโกแลตนม ก็ได้รับความนิยมในทันที จนกลายเป็นสัญลักษณ์ของการใช้ชีวิตกลางแจ้งที่เรียกว่า “friluftsliv” ซึ่งเป็นแนวคิดที่ให้ความสำคัญกับการทำกิจกรรมในธรรมชาติ และเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมนอร์เวย์มาตั้งแต่ช่วงต้นศตวรรษที่ 20

ช็อกโกแลตแห่งความทรงจำและข้อถกเถียง

สำหรับชาวนอร์เวย์หลายคน Kvikk Lunsj คือความทรงจำในวัยเด็กที่ไปตั้งแคมป์กับครอบครัว “มันเป็นส่วนหนึ่งของความทรงจำในวัยเด็กของเรา เป็นสิ่งที่เชื่อมโยงเราเข้าด้วยกัน” เอริก มิกัลเซน ที่ปรึกษาบริษัทโฆษณาในกรุงออสโลกล่าว

แม้จะเป็นที่รักของคนในชาติ แต่ Kvikk Lunsj ก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์มาตลอดว่าเป็น “ช็อกโกแลตลอกเลียนแบบ KitKat” ของอังกฤษ เนื่องจากมีรูปลักษณ์ที่คล้ายคลึงกันมาก จนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้ KitKat ได้ประกาศเข้าสู่ตลาดนอร์เวย์ ทำให้เกิดความกังวลว่าจะเกิดการแข่งขันกัน แต่สุดท้ายศาลได้ตัดสินให้ Kvikk Lunsj มีสิทธิ์แต่เพียงผู้เดียวในการขายช็อกโกแลตสี่นิ้วในนอร์เวย์ ในขณะที่ KitKat จะต้องขายช็อกโกแลตในรูปแบบอื่น