วิสปี้ คาราดี้ ผู้ที่ได้ชื่อว่า “มนุษย์เหล็กแห่งอินเดีย” เจ้าของสถิติโลกคนล่าสุด

วิสปี้ คาราดี้ หรือที่ได้รับฉายาว่า “มนุษย์เหล็กแห่งอินเดีย” ได้สร้างความฮือฮาอีกครั้งเมื่อเขาคว้าสถิติโลกจาก Guinness World Records ในประเภทการถือเสาเฮอร์คิวลิสที่หนักที่สุด โดยใช้พลังความแข็งแกร่งอันมหาศาลในการยกน้ำหนักรวมถึง 261 กิโลกรัม ซึ่งเทียบเท่ากับเสาแต่ละต้นหนักเกือบครึ่งหนึ่งของหมีขั้วโลกเลยทีเดียว

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม ที่ด่าน Attari ในรัฐปัญจาบ ประเทศอินเดีย ท่ามกลางเสียงเชียร์กึกก้องจากผู้ชมนับพันคน วิสปี้ต้องทนทานแรงดึงของเสาทั้งสองเป็นเวลา 1 นาที แต่ด้วยความมุ่งมั่น เขาจึงทำได้นานถึง 1 นาที 7 วินาที ก่อนจะปล่อยเสาลงสู่พื้นและแสดงความภาคภูมิใจในความสำเร็จครั้งล่าสุดนี้

การทำลายสถิติครั้งนี้ถือเป็นสถิติที่ 17 ของเขา และเขาก็ได้อุทิศความสำเร็จนี้ให้แก่ “กองกำลังทหารแห่งอินเดีย” เพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้ที่ปกป้องประเทศ นอกจากนี้เขายังขอบคุณอาจารย์ Shihan และ Hanshi สำหรับการสนับสนุนมาโดยตลอด

สถิติโลกที่ไม่น่าเชื่อของ “มนุษย์เหล็ก”

 Hercules Pillars วิสปี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่ทำลายสถิติการถือเสาเฮอร์คิวลิส ก่อนหน้านี้ในเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว เขาเคยทำสถิติถือเสาเฮอร์คิวลิสได้นานที่สุดเป็นเวลา 2 นาที 10.75 วินาที โดยเสาแต่ละข้างมีน้ำหนัก 166.7 กิโลกรัมและ 168.9 กิโลกรัม

งอเหล็กด้วยคอ สถิติเก่าแก่ที่สุดที่ยังคงอยู่คือการงอแท่งเหล็กด้วยคอมากที่สุดใน 1 นาที โดยเขาทำได้ถึง 21 แท่งในเดือนตุลาคม 2019

ทุบบล็อกคอนกรีต ในปี 2022 วิสปี้ทำลายสถิติสองรายการในวันเดียว ได้แก่ การทุบบล็อกคอนกรีตบนเตียงตะปูที่หนักที่สุด (528 กิโลกรัม) และการทุบบล็อกคอนกรีตด้วยข้อศอกมากที่สุดใน 1 นาที (64 บล็อก)

การแสดงสุดอันตรายบนเตียงตะปู ในเดือนกุมภาพันธ์ 2023 เขาได้ไปร่วมรายการ Lo Show dei Record ที่เมืองมิลาน และทำลายสถิติถึง 3 รายการ รวมถึงการทุบบล็อกคอนกรีตบนเตียงตะปูที่หนักที่สุด (964.80 กิโลกรัม) และการยืนบนเตียงตะปูที่มีคนทับอยู่ด้านบนถึง 11 คน

แบกน้ำหนักมหาศาล ความสำเร็จล่าสุดในรายการ Lo Show dei Record เดือนกุมภาพันธ์ปีนี้คือการแบกน้ำหนักบนร่างกายที่หนักที่สุดถึง 1,819 กิโลกรัม ซึ่งมีน้ำหนักเกือบเท่ากับยีราฟทั้งตัว

เมื่อได้เห็นความสามารถอันเหลือเชื่อเหล่านี้แล้ว ก็อดสงสัยไม่ได้ว่า “มนุษย์เหล็กแห่งอินเดีย” คนนี้จะสร้างสถิติอันน่าทึ่งอะไรขึ้นมาอีกในอนาคต